ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในเมืองฉงชิ่ง กลุ่มเพื่อนนัดกินข้าวกันตามปกติ ทุกอย่างดูราบรื่นจนกระทั่งมื้ออาหารจบลง พร้อมบิลค่าอาหาร 1,262 หยวน
จู่ ๆ เพื่อน 9 คนก็ทยอยเดินออกจากร้านไปหน้าตาเฉย ทิ้งให้ "นายจาง" นั่งงงอยู่ที่โต๊ะคนเดียว
พอพนักงานเดินมาเก็บตังค์ นายจางก็ปฏิเสธที่จะจ่าย โดยอ้างว่าเขาไม่ใช่คนนัด แถมไม่มีเงินพอที่จะจ่ายทั้งหมดด้วย
เมื่อตกลงกันไม่ได้และโทรหาเพื่อนก็ไม่มีใครรับ เจ้าของร้านเลยต้องเรียกตำรวจมาช่วยเคลียร์
สุดท้าย ตำรวจช่วยไกล่เกลี่ยจนนายจางยอมเซ็น "หนังสือสัญญา" ว่าจะกลับมาจ่ายให้ครบภายใน 6 โมงเย็นของวันรุ่งขึ้น พร้อมทิ้งบัตรประชาชนไว้เป็นหลักประกัน
แต่ปรากฏว่าพอถึงเวลานัด นายจางก็เบี้ยว โดยให้เหตุผลว่าเพื่อน ๆ ยังไม่โอนเงินมาให้ แล้วทำไมเขาต้องมารับผิดชอบคนเดียว?
เรื่องลากยาวไปหลายวัน จนสุดท้ายเขาก็ยอมติดต่อกลับ และจ่ายเงินครบจำนวนในวันที่ 13 ธันวาคมที่ผ่านมา
ด้านนักกฎหมายให้ความเห็นไว้ว่า
การกินข้าวเป็นกลุ่มตามกฎหมายแพ่งของจีนถือเป็น "หนี้ร่วม" หมายความว่า ร้านอาหารมีสิทธิ์เรียกเก็บเงินทั้งหมดจากใครก็ได้ในโต๊ะ โดยไม่ต้องสนว่าก่อนหน้านั้นจะตกลงหารกันยังอย่างไร
ยิ่งไปกว่านั้น การที่นายจางเซ็นชื่อยอมรับหนี้ไปแล้ว ยิ่งเป็นการยืนยันภาระผูกพันทางกฎหมาย
และหากไม่มีการตกลงแน่ชัดว่าใครจะเป็นเจ้ามือ ผู้ร่วมโต๊ะทุกคนต้องรับผิดร่วมกันในหนี้ก้อนนี้ ซึ่งโดยทั่วไปจะแบ่งกันเท่า ๆ กัน
สรุปสั้น ๆ คราวหน้าถ้านัดเพื่อนกลุ่มใหญ่ แล้วดูทรงเพื่อนจะ "ชิ่ง" ให้เก็บเงินกองกลางไว้กันเหนียวก่อนสั่งอาหาร น่าจะปลอดภัยสุด
แต่ที่ง่ายกว่านั้น เพื่อนแบบนี้ เลิกคบด่วน
::
อ้างอิงจาก - Red Star News